| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
โปรโตซัวในปลาหางนกยูง | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
โปรโตซัว เป็นสัตว์เซลล์เดียวมีขนาดเล็กมาก ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า การดำรงชีวิตมีทั้งเป็นอิสระอยู่และดำรงชีวิตแบบเป็นปรสิต โปรโตซัวจำนวนมากในระบบนิเวศน์ของแหล่งน้ำ ที่ดำรงชีวิตเป็นปรสิตในสัตว์น้ำทั้งภายนอกและภายใน และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอยู่เสมอ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
Tetrahymena ssp. เป็นโปรโตซัวชนิดหนึ่ง จัดจำแนกอยู่ใน Subphylum Ciliophora Class Ciliata Order Hymenos tomatida Suborder Tetrahyminena Genus Tetrayhmena เป็นสัตว์เซลล์เดียว รูปไข (oval shape) มีขนาดเล็กมากประมาณ 30-50 ไมครอน มีขนเล็กๆ (Cilia) เรียงเป็นแนวยาวจากด้านหน้าไปด้านท้ายเซลล์ ซึ่งเป็นส่วนที่ช่วยในการเคลื่อนที่จำนวนแถวของ Cilia มีจำนวนแตกต่างกันตั้งแต่ 30-40 แถว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิด (species) เช่น T. pyriformis มีจำนวนแถวของ Cilia 17-21 แถว T. corlissi มีจำนวนแถวของ cilia 25-31 แถว และมี cilia ที่ยาวและแข็งแรงกว่า cilia อื่นๆ อยู่ 1 เส้น อยู่ด้านท้ายของเซลล์ เรียกว่า "caudal cilium" T.rostrata มีจำนวนแถวของ cilia 32-35 แถว เป็นต้น ลักษณะเด่นของโปรโตซัวในกลุ่มนี้มีร่องปาก (cytostome) อยู่ค่อนมาทางหน้าของเซลล์ และมีขนอยู่โดยรอบ คอยพัดโบกสารอาหารเข้าร่องปากลักษณะร่องปาก มีโครงสร้างเป็นเยื่อบางๆ 4 ชั้น จึงได้ชื่อว่า Tetrahymena (Tetra เป็นภาษาละติน หมายถึงจำนวน 4, hymen เป็นภาษากรีก หมายถึงเนื้อเยื่อ (membrane) การสืบพันธุ์โดยการแบ่งเซลล์ (binary fission) ซึ่งมีทั้งแบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ มีนิวเครียส 2 ชนิด มีขนาดและหน้าที่ต่างกันคือนิวเครียสขนาดใหญ่ 1 อัน รั้งอยู่ตรงกลาง เซลล์รูปร่างเรียวแต่ไม่คงรูปเรียกว่า macronucleus มีขนาดประมาณ 10 ไมคครอน เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของเซลล์ ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับขบวนการเผาผลาญอาหารและนิวเครียสขนาดเล็ก รูปร่างค่อนข้างกลมมีจำนวนมาก เรียกว่า micronucleus ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์โดยแลกเปลี่ยนสารพันธุกรรม (genetic material) ระหว่างเซลล์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
การดำรงชีวิตของ tetrahymena ในแหล่งน้ำธรรมชาติ มีทั้งแบบมีชีวิตอิสระ (free-living) โดยกินแบคทีเรียที่ปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้ำเป็นอาหาร และเป็นปรสิตโดยกัดกินเนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิตอื่นเป็นอาหาร ปัจจุบันได้พบว่า Tetrahymena เป็นปรสิตที่ทำให้ความเสียหายให้กับเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงปลาหางนกยูงเป็นอย่างมาก ดังนั้นเกษตรกรจึงควรสนใจศึกษาถึงลักษณะของโรคที่เกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัวชนิดนี้จะได้ป้องกันและรักษาโรคนี้ได้ทันท่วงที | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
การก่อให้เกิดโรคและการแพร่ระบาดของโรคสัตว์น้ำจากโปรโตซัวชนิดนี้ ยังไม่มีรายงานแน่ชัด เนื่องจากยังไม่เคยมีรายงานการศึกษาถึงการเกิดโรคนี้ในประเทศไทยมาก่อน แต่อาจสันนิษฐานได้ว่าอาจปนเปื้อนมากับปลาหางนกยูง หรือสัตว์น้ำอื่นๆ ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศมีรายงานการตรวจพบการติดเชื้อโปรโตซัว Tetrahymena sp. ในปลาหางนกยูงจำนวนหนึ่งที่นำเข้าจากประเทศสิงคโปร์ไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผู้นำสัตว์น้ำเข้ามาในประเทศไทยควรตระหนักถึงเรื่องนี้ให้มากขึ้น เพราะเมื่อโรคสัตว์น้ำชนิดใหม่ที่มีความรุนแรงของโรคสูงเข้ามาในประเทศ แล้วเกิดการแพร่ระบาดการควบคุมและรักษาโรคเป็นเรื่องยากและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก
|
การป้องกันและรักษา | ||||||||||||||||
ถ้าผู้อ่านได้ติดต่อข่าวโรคสัตว์น้ำอย่างต่อเนื่อง คงได้ทราบวิธีการป้องกันและรักษาไปบ้างแล้ว แต่ขอสรุปให้ทราบอีกครั้งดังนี้ | ||||||||||||||||
| ||||||||||||||||
| ||||||||||||||||
ยารักษาโรคปลา | ||||||||||||||||
ยาที่ใช้รักษาโรคปลาส่วนใหญ่แล้ว เป็นสารเคมีที่มีคุณสมบัติในการละลายน้ำได้ดีอาจจะอยู่ในรูปของสารแขวนลอยในน้ำ ที่ให้ระดับความเข้มข้นพอที่จะรักษาเยียวยาให้เกิดผลดี นอกจากนี้ยังต้องมีราคาถูก มีอยู่มากมายหลายชนิดเท่าที่นิยมใช้ในบ้านเรา และเป็นที่ยอมรับกันว่าใช้แล้วได้ผลดีคือ ยาเหลือง จุนสี ดิพเทอเร็กซ์ ฟอร์มาลิน มาลาไลท์กรีน ด่างทับทิม และเกลือแกง | ||||||||||||||||
| ||||||||||||||||
ยาเหลือง มีลักษณะเป็นผงสีเหลืองส้ม มีผลในการยับยั้งแบคทีเรีย นิยมจะใช้ในขณะที่ทำการขนส่งปลา หรือเริ่มปล่อยปลาความเข้มข้นที่ใช้ 1-3 มิลลิกรัมในน้ำ 1 ลิตร ใช้ในปลาที่มีขนาดเล็กส่วนปลาที่มีขนาดใหญ่ อาจจะใช้ถึง 10 มิลลิกรัมในน้ำ 1 ลิตร ยาเหลืองมีราคาค่อนข้างแพง ไม่นิยมใช้ในบ่อเลี้ยงปลาสวยงามที่มีขนาดใหญ่มักจะใช้กันอยู่ในตู้ปลาเท่านั้น | ||||||||||||||||
| ||||||||||||||||
จุนสี เป็นสารเคมีที่มีลักษณะเป็นเกล็ดเล็กๆ สีฟ้ามักจะใช้เพื่อฆ่าสาหร่าย ในการใช้จุนสีควรคำนึงถึงความกระด้างของน้ำ น้ำที่มีความกระด้างน้อย ความเป็นพิษของจุนสีจะเพิ่มสูงขึ้น มีผลทำให้ปลาตายได้ | ||||||||||||||||
| ||||||||||||||||
ดิพเทอเร็กซ์ มีลักษณะเป็นผลึกสีขาว หรือเหลืองอ่อนนำมาใช้กำจัดปรสิตภายในในปลาสวยงาม ดิพเทอเร็กซ์ จัดไว้อยู่ในกลุ่มของยาฆ่าแมลงของสารประเภทออร์แกโนฟอสเฟต มีหลายชื่อที่เรียกกันไดลอกซ์เป็นชื่ออีกชื่อหนึ่งที่รู้จักกันดี | ||||||||||||||||
| ||||||||||||||||
ฟอร์มาลิน เป็นของเหลวสีขาว มีกลิ่นเป็นสารที่ประกอบด้วยฟอร์มาดีฮาย 37-40 เปอร์เซ็นต์ ในการใช้ฟอร์มาลินจะต้องจะต้องเลือกใช้ที่เป็นของเหลวใส ไม่มีตะกอนขุ่นขาว ปนอยู่ในระหว่างการใช้ยาควรให้อาการตลอดเวลา เพราะฟอร์มาลินจะทำให้ปริมาณของออกซิเจนในน้ำลดลง ฟอร์มาลินนับเป็นสารที่มีความสำคัญในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ นิยมที่จะใช้กำจัดปริสิตภายนอก และมีผลต่อโปรโตซัว | ||||||||||||||||
| ||||||||||||||||
มาลาไคท์กรีน มีลักษณะเป็นผงสีขาว เมื่อละลายน้ำจะให้สีฟ้าอ่อนๆ จนถึงสีเขียวตามระดับของความเข้มข้น นิยมที่จะใช้มาลาไคท์กรีน ในการกำจัดและป้องกันเชื้อรา การใช้มาลาไคท์กรีนต้องระมัดระวัง เพราะเป็นสารที่มีอันตรายต่อมนุษย์ | ||||||||||||||||
| ||||||||||||||||
ด่างทับทิม มีลักษณะเป็นผลึกสีม่วงแดง ละลายน้ำได้ดีเป็นชนิดเดียวกันกับที่แม่บ้านใช้ล้างผัก ด่างทับทิมมีผลในการป้องกันและกำจัดโรคได้อย่างกว้างขวาง ทั้งโปรโตซัว เชื้อรา และแบคทีเรีย ในการเลี้ยงปลาสวยงามนิยมที่จะใช้ไรแดงก่อนให้ปลากินเป็นอาหาร นอกจากนี้ด่างทับทิมเป็นตัวที่จะช่วยเพิ่มปริมาณของออกซิเจนในน้ำ | ||||||||||||||||
| ||||||||||||||||
เกลือแกง มีลักษณะเป็นเม็ดและผงสีขาวๆ ละลายน้ำได้ดีมีราคาถูกหาซื้อได้ง่าย เป็นชนิดเดียวกันกับที่แม่บ้านใช้ปรุงอาหารในครัวเรือน นิยมใช้เกลือแกง เพื่อป้องกันการติดเชื้อและช่วยลดอัตราการบอบช้ำในขณะที่ลำเลียง มักจะใส่เกลือแกง 1-2 กรัมในน้ำ 1 ตัน นอกจากนี้เกลือยังช่วยลดความเป็นพิษของแอมโมเนียในน้ำได้ดีอีกด้วย | ||||||||||||||||
| ||||||||||||||||
คลอแรมเฟนิคอล เป็นตัวยาที่รักษาโรคที่เกิดจากแบคทีเรีย มีลักษณะเป็นแผงเป็นยาที่นิยมใช้กันมาก ราคาไม่แพงนัก อาจใช้ฉีดปลาหรือผสมลงในอาหารปลาเพื่อรักษาโรค อัตราที่นิยมใช้ หากฉีดจะใช้ยา 3 มิลลิกรัม ฉีดปลาที่มีน้ำหนัก 150-400 กรัม หากผสมอาหารจะใช้ยานี้ 55 มิลลิกรัมผสมอาหาร 1 กิโลกรัม กินติดต่อกัน 5 วัน | ||||||||||||||||
| ||||||||||||||||
ครอโรเตตราซัยคลิน เป็นตัวยาที่ใช้รักษาโรคที่เกิดจากแบคทีเรีย เชื้อรา และหนอนพยาธิ มีลักษณะเป็นผงสีเหลือง มีขายโดยทั่วๆ ไปส่วนใหญ่จะใช้ยาชนิดนี้ละลายน้ำในอัตรา 10-20 มิลลิกรัม ต่อน้ำ 1 ลิตร | ||||||||||||||||
| ||||||||||||||||
ออกซีเตตราซัยคลิน เป็นตัวยาใช้กำจัดแบคทีเรีย เชื้อรา และหนอนพยาธิ มีลักษณะเป็นผง ผสมอาหารให้ปลากิน ในอัตรา 5-10 กรัมต่ออาหาร 100 กรัม |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น